Run On ถึงแม้จะเป็นซีรี่ย์ที่จะออกแนวคอมเมดี้ หรือดูแบบไปเรื่อยๆ ไม่ใช่หนังหนัก ที่จะดราม่าในแบบดูไป ร้องไห้ไป แต่ออกจะไปในแนวของ ฟีลกู๊ดก็ได้หากพูดในแนวหนังตะวันตก ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องนี้ เลยมีการพูดถึงในวงกว้างว่า อาจจะหาจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เมื่อได้ลองเข้ามาดูแล้ว เชื่อว่าแต่ละคนจะได้มุมมอง และความรู้สึกสำหรับหนังเรื่องนี้ ที่อาจจะไม่โดดเด่นในวงกว้าง แต่เป็นเรื่องที่หลายคนบอกว่า ต้องเข้ามาดูให้ได้
รวมถึงการตีแผ่ในจุดของ คนๆ หนึ่งที่เริ่มต้นชีวิตไม่ว่าจะเป็นการเรียน เลยมาถึงช่วงชีวิตที่เข้ามาในอาชีพการงาน อย่างพระเอกคี ซอนกยอนนั้น กับนักกีฬาอาชีพนักวิ่ง หรือนักกีฑา หากมองผิวเผินก็เป็นนักกีฬาเหมือนคนอื่นๆ แต่การที่ตัวเขาดังได้ อาจเพราะพ่วงจากความมีชื่อเสียงของครอบครัว ที่พ่อเป็นนักการเมือง แม่เป็นนักแสดง อีกทั้งพี่สาวของเขายังเป็นโปรกอล์ฟมืออาขีพอีกด้วย การที่เห็นใครต่อใครให้ความสำคัญพระเอก ไม่ว่าจะเป็นคนภายนอกที่เป็นแฟนคลับ หรือในการเก็บตัว ทั้งโค้ช และนักกีฬาด้วยกัน อาจหมายถึงชื่อเสียงของครอบครัวของ คี ซอนกยอนด้วย
Run On การเป็นเงาตามหลังใคร หรือจะเริ่มต้นฉายแววด้วยตัวเอง
ใครหลายคนหากอยู่ในจุดของพระเอกเรื่องนี้ การคิดมาก หรือนั่งมองว่าสิ่งที่คนอี่น เข้ามาเชิดชู ให้ความสำคัญไม่ใช่ความสามารถ หรือสิ่งที่ตัวเราทำเอง อาจไม่เรื่องมานั่งดราม่า หรือคิดไปไกล ดีเสียอีกที่ไม่ต้องเหนื่อยในการสร้างชื่อ หรือให้ใครทุกคนได้รู้จัก และเคารพ นับถือตัวเอง
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ คี ซอนกยอน คนที่เฝ้ามองว่า การที่ตัวเองเป็นเพียงแค่นักกีฑาเท่านั้น ทำไมต้องทำตัวออกสื่อ ออกวิทยุ โทรทัศน์เพื่อให้คนรู้จักตัวเองมากขึ้น เหมือนอย่างที่แม่ตัวเอง พยายามชักนำให้ลูกชาย เป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงในอนาคต ที่อาจจะสามารถหาเงินได้มากกว่า การเป็นนักกีฬาอย่างในทุกวันนี้ Run On เลยเหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟข้างในใจของพระเอก โดยมีจุดเริ่มต้นให้เจอกับนางเอก โอ มีจู ที่เธอมีอาชีพเป็นนักแปล เส้นทางของเธอ ตรงข้ามกับพระเอกในทุกด้าน ทุกการทำงานล้วนมีอุปสรรค โดยเฉพาะกับคนที่เป็นหัวหน้าในการกำหนดชี้เป็น ชี้ตายให้กับงานแปลของเธอ แถมยังเป็นเหมือนผู้มีบุญคุณให้กับเธออีกด้วย อย่างศาสตราจารย์ที่เห็นอะไรก็เป็นด้านลบไปหมด ไม่เว้นในงานเลี้ยงให้กับคนทำงานในทีมแปล สะกิดเรื่องการเป็นผู้หญิงหน้าตาดีของเธอ ก็ยังทำให้เป็นปัญหา ที่ศาสตราจารย์หมั่นไส้ จนนำเอามาพูดเสียดสีกลางงานเลี้ยง
การได้เรียนรู้ในชีวิตใครสักคน เราต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
อย่างการได้เข้ามารู้จักกับ โอ มีจูในฐานะนักแปล และคนที่ช่วยเป็นล่ามให้กับ คี ซอนกยอน รวมถึงการที่เธอบอกว่า จะทำงานนี้ให้กับเขาแบบไม่คิดเงิน ในฐานที่พระเอกเจอแต่ประสบการณ์ทั้งกับที่บ้าน และสิ่งแวดล้อม ที่ทุกอย่างคือการแลกเปลี่ยน และผลประโยชน์ ตัวเขาเลยมองว่า การทำแบบนี้ของนางเอก เหมือนแกล้งเพื่อให้มองเห็นว่า เธอเป็นคนชอบทำบุญ ทำกุศล
ซึ่งเหมือนเป็นการคิดคนละด้านกับ โอ มีจูที่ตัวเธอไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า การมองเห็นเป็นเพียงแค่งานเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะช่วยเหลือกันได้ ถ้าจะคิดเป็นตัวเงินก็คิดไม่ถูกว่า จะต้องได้รับเท่าไหร่เพราะน้อยนิดมาก สำหรับการเข้ามาช่วยพระเอกในครั้งนี้
ทั้งหมดเลยเหมือนเป็นการที่นางเอก ดึงพระเอกเข้ามาในโลกของเธอ ให้รู้จักกับสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องเห็นเป็นวัตถุ หรือตัวเงินบ้าง เข้าใจในสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา แต่มีคุณค่าในจิตใจ รวมถึงสิ่งที่ได้มากแบบไม่คาดคิดคือ เป็นเหมือนเส้นทางที่พา คี ซอนกยอนได้ค้นเจอว่า อะไรที่ตัวเขาต้องการทำ หรือต้องการเป็นมากกว่า การเป็นนักวิ่งเท่านั้น และชื่อเสียงที่ได้รับอยู่ในตอนนี้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในทีมการซ้อม กับการที่พระเอกได้เห็นรุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ โดนทำร้ายร่างกาย ในแบบที่ไม่มีสิทธิที่จะบอกใคร ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ผิด สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนตัวขวางในใจของพระเอกอยู่ตลอด และเชื่อมกับสังคมของครอบครัวตัวเองด้วยว่า สิทธิพิเศษคืออะไร คือการที่เราเหนือกว่าคนอื่น เพียงแค่เรารวย มีชื่อเสียง และมีเส้นสาย หรือพรรคพวกมากกว่าแค่นั้นจริงๆ หรือ
เมื่อเราดูผ่าน 3 ตอนแรกไปจนถึงตอนจบแล้ว เราจะรู้เลยว่า จริงๆ แล้วความเป็นตัวตน และรักความยุติธรรม มองโลกในด้านบวกของทั้ง โอ มีจู และคี ซอนกยอนนั้นเหมือนกัน แต่ Run On ก็ยังเน้นในความมีชีวิตในความเป็นจริงด้วยว่า คนเราก็ต้องมีส่วนที่แตกต่างกันบ้าง เพราะในทางของ โอ มีจูนั้น ด้วยอาชีพนักแปล ทำให้เธอต้องผูกติดกับ หนังที่ต้องดูหลายหลายเรื่อง ทำให้เธอติดที่จะอยู่ในโลกที่ออกจะเป็นความเพ้อฝันตามแบบผู้หญิง แต่ตัว คี ซอนกยอน การได้นั่งฟังความคิดของคนทำงานแปล ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเรียนรู้สำหรับเขา ที่เข้ามาเพิ่มเติมในความเป็นคนมองทุกอย่างเป็นเรื่องจริงจัง สิ่งที่เขาได้รับกจาก โอ มีจูเป็นสีสันที่เข้ามาทำให้ชีวิตของเขา ยิ้มได้และมีความสุขอย่างที่ตัวเองไม่เคยสัมผัสมาก่อน
อ่านบทความเพิ่มเติม
https://la-korea.com
เครดิต
https://google.com