โลโก้ ซีรี่ย์เกาหลี - https://la-korea.com/

It’s Okay to Not Be Okay ทุกสิ่งอาจไม่ใช่เพียงแค่พรหมลิขิต

It’s Okay to Not Be Okay

It’s Okay to Not Be Oka ประโยคแรกที่ได้ทำความรู้จักกันระหว่าง มุน แกงค์แท กับนางเอกอย่าง โค มุนยอง ที่สถานที่โรงพยาบาลจิตเวช และคำที่ออกมาจากนางเอกคือ คุณคิดมั้ยว่าชีวิตคนเราเหมือนโชคชะตา กับการที่มุน แกงค์ เข้ามาห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณโรงพยาบาล แต่ด้วยความที่นางเอกอย่าง โค มุมยองไม่เคยเชื่อใคร หรือทำอะไรให้ใครง่ายๆ อยู่แล้ว สุดท้ายการที่ยอมโยนบุหรี่ที่ตัวเองสูบ ลงแก้วกาแฟของพระเอก ก็เพราะความหน้าตาดีของพระเอก แต่ก็ยังหยิ่งด้วยความเป็นตัวตนของตัวเองอยู่

การมาที่โรงพยาบาลจิตเวชที่นี่ ไม่ได้เป็นที่ๆ โค มุมยองอยากมา แต่ด้วยความที่พ่อของเธอต้องพักรักษาอยู่ที่นี่ ด้วยอาการโรคสมองเสื่อม และต้องทำการผ่าตัดโดยด่วน รวมถึงตัวเธอถึงแม้จะเป็นนักเขียนเรื่องราว นิทานให้กับเด็ก แต่ชีวิตและมุมมองของเธอก็ไม่ได้สดใสเหมือนอย่างอาชีพที่ทำ แต่เป็นนิทานที่ออกแนวลึกลับ และเป็นแนวดาร์กมากกว่า

It’s Okay to Not Be Okay ชีวิตที่ไม่ได้สมบูรณ์ แต่เราแก้ไขได้

ใครจะไปเชื่อว่า นางเอกเรื่องนี้ถ้าดูภายนอก ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง ฐานะ และครอบครัวไม่ได้แย่ หรือเทียบกับคนอื่นไม่ได้ แต่กลับมีปม และมีอาการทางจิตที่แฝงความรุนแรง และเก็บกดเรื่องพ่อของตัวเอง และเสพติดในเรื่องการคิดในแง่ทำร้ายตัวเอง It’s Okay to Not Be Okay เลยทำให้คนดูอย่างเราๆ มีทั้งอารมณ์ที่กลัวความเป็นตัวตนข้างในใจของ โค มุมยอง และแอบเอาใจช่วย ด้วยความสงสารเธอในอีกมุมหนึ่ง ที่เหมือนเธอจะรู้เพียงแค่ว่า การทำตัวสยองให้คนอื่นได้กลัวตัวเธอเอง เป็นเหมือนเกราะที่ช่วยป้องกันเธอให้ปลอดภัยในมุมของตัวเอง

จุดเชื่อมโยงระหว่าง โค มุมยองกับ มุม แกงท์ อาจไม่ใช่การชอบกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เหมือนอย่างที่นางเอกเปรยเรื่องโชคชะตา และพรหมลิขิต แต่เป็นการที่พี่ชายของ มุม แกงท์ ชอบโค มุมในฐานะนักเขียนนิทานเด็ก มากเป็นพิเศษต่างหาก ทำให้มุม แกงท์ต้องทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการขอลายเซ็นนางเอก ทั้งๆ ที่ตัวเองมีความรู้สึกไม่ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เพื่อนำไปให้พี่ชายตัวเอง หวังแค่ให้พี่ชายมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อ และทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง

สังคมที่เน้นมุมบวกไว้มากๆ ถ้าชีวิตจริงไม่สามารถย้อนไปแก้ไขได้

การที่โค มุมยองมีเรื่องฝังใจกับพ่อของเธอ ทำให้ตัวเธอไม่ค่อยได้สนใจ และใส่ใจในการเข้าไปติดตาม การรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช ทั้งๆ ที่พ่อของเธอรอการเซ็นอนุมัติการผ่าตัดอย่างรีบด่วน เกี่ยวกับสมองเสื่อม นั่นเป็นเพราะตัวเธอเคยได้รับสิ่งที่พ่อเธอทำให้ตั้งแต่เด็ก

เหตุการณ์นั้นย้อนกลับมาหาเธอ เหมือนเป็นแดจาวูที่มีคนไข้โรคจิต เข้ามาดูการเล่านิทานของเธอ และเกิดเหตุการณ์ชุลุมน จนทำให้พ่อที่เป็นคนไข้โรคจิต ต้องการฆ่าชีวิตลูกสาวตัวเอง ในวัยอายุเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้น เมื่อโค มุมยองเข้ามาเห็น ก็ทำให้ภาพในอดีต ที่พ่อของเธอก็ทำแบบนี้กับเธอ ทำให้เธอมองคนแบบนี้ว่า ขี้ขลาด ไม่มีความกล้าที่จะอยู่ต่อ แต่ก็ไม่กล้าตายคนเดียว การได้มาเจอเรื่องราวที่เหมือนย้อนอดีตที่เป็นปมของตัวเอง ยิ่งทำให้เธอยิ่งถลำไปในความทรงจำที่เลวร้ายมากขึ้น

หากเรามองภาพรวมของเรื่องนี้ คิดว่าหลายคนคงเดาทางออกว่า หนังจะเดินเรื่อง และจบในรูปแบบไหน แต่ที่น่าสนใจคือ คนดูต้องการรู้ว่า การที่มี มุน แกงท์เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตของ โค มุมยองนั้น จะมีทางไหนได้บ้าง ที่จะช่วยปรับความคิด และปมในใจของเธอให้ดีขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เชื่อใจใคร และทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับตัวเองเท่านั้น It’s Okay to Not Be Okay อาจไม่ใช่แนวจิตวิทยาแบบเต็มร้อย แต่ผสมความเป็นดราม่าของละครเข้าไปด้วย แต่ละตอน หรือซีนที่มีเหตุการณ์เข้ามา สามารถปลุกการติดตามของคนดู ให้เดินไปกับตัวหนัง เพื่อที่จะลุ้นว่าจะแก้ไขปมที่เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่คิดว่าจุดขาย  สำหรับคนที่เข้ามาดูเกินครึ่งคงหนีไม่พ้น นางเอกอย่าง ซอ เยจี และพระเอก คิม ซูฮยอนที่คุ้นตาในหลายซีรี่ย์เกาหลี

อ่านบทความเพิ่มเติม
https://la-korea.com

เครดิต
https://google.com

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
Telegram
โลโก้ ซีรี่ย์เกาหลี - https://la-korea.com/

Social Media

Most Popular

Tags